ทะเบียนสมรสก็มา! “เกรท-เก้า” แต่งเงียบเรียบง่าย แต่ “พาย” วีน!

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 - 16.35 น.   เปิดอ่าน 6,124 ครั้ง

ทะเบียนสมรสก็มา! “เกรท-เก้า” แต่งเงียบเรียบง่าย แต่ “พาย” วีน!

ยียวนกวนใจกันอยู่ 3 ตอน มาตอนที่ 4 แต่งกันแล้วจ้า!! รวดเร็วเหมือนฟ้าผ่า เพราะจู่ๆ ดนุรุจก็จับมือส้วมเข้าพิธีจดทะเบียนสมรสกันอย่างไม่เป็นทางการนักที่บ้านของเขาเอง! งานนี้มีสักขีพยานเพียบ แต่ถ้าถามว่าราบรื่นมั้ย…ถ้าไม่มีดราม่าก็ไม่ใช่ “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ 2019” นะจ้ะ ฉากจดทะเบียนสมรสนี้ถ่ายทำกันในบ้าน บรรยากาศเงียบสงบ มีสักขีพยานประกอบไปด้วย สองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน “เกรท-เก้า” พยานรักอย่าง “กิ๊ฟ ปาลิดา, ปาริธ, รัก ศรัทธา, โก้ คุณากร” รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนที่มาอำนวยความสะดวกให้ถึงบ้าน นอกจากนี้ยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่าง “พาย-รินรดา” ตามมาอวยพรแบบน้ำตาท่วมถึงบ้าน! ฉากนี้ไม่ฮาแถมพากันเครียด เริ่มเดินเครื่องพี่เหมี่ยว-ปวันรัตน์ ผู้กำกับฯ อารมณ์ดี เรียกทุกคนมาบรีฟ โดยเฉพาะ “เกรท-เก้า” การแต่งงานที่มีขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นเพราะทั้งคู่มีจุดประสงค์บางอย่าง ทำให้ทั้งเกรทและเก้าต้องทำความเข้าใจจุดประสงค์นั้นอย่างชัดเจน เพราะการแสดงออกในฉากนี้จะต้องซับซ้อนซ่อนเงื่อน เมื่อทุกคนเข้าใจบรีฟดีแล้ว ก็เริ่มเดินหน้าถ่ายทำ…การจดทะเบียนสมรสของดนุรุจและส้วมดำเนินไปด้วยดี และควรจะมีความชื่นมื่นหลังจดทะเบียนกันเสร็จ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ “หนึ่งธิดา” (พาย-รินรดา) ก็โผล่เข้ามาและเจอทะเบียนสมรส จากนั้นหนึ่งธิดาก็เริ่มโวยวาย ด่าทอส้วม แต่ส้วมไม่ด่ากลับแถมน้ำตาพาลจะไหล ตัวหนึ่งธิดาเองก็น้ำตาไหลแรงไม่แพ้กัน เพราะจริงๆ แล้วเธอชอบและกำลังจีบดนุรุจอยู่อย่างเปิดเผย! แต่ดนุรุจก็ดันมาแต่งงานกับส้วม ซึ่งอดีตเคยเป็นเพื่อนสนิทเธอซะนี่ คุณพระคุณเจ้า…เรื่องราวมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินจะบรรยาย จากละครคอมเมดี้ผีบ้าผีบอกลายเป็นละครดราม่าไปซะงั้น งานนี้ “เก้า-พาย” ใส่อารมณ์ดราม่ากันเต็มที่ แข่งกันน้ำตาไหลหยดติ๋งๆ พี่เกรทแทบจะกุมขมับ จากงานมงคลกลายเป็นงานทะเลาะวิวาทไปซะงั้น…เฮ้อ บทสรุปของฉากนี้จะเป็นอย่างไร การจดทะเบียนสมรสของดนุรุจและส้วมจะจบลงด้วยดีหรือไม่ เอาใจช่วยใครซักคนในละครเรื่อง “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” นำแสดงโดย เกรท-วรินทรm, เก้า-สุภัสสรา, พาย-รินรดา, และปาริธ ทิมทอง นักแสดงน้องใหม่ล่าสุด ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เมคเกอร์ วาย จำกัด ควบคุมการผลิตโดย ยศสินี ณ นครและณัฐบูร ไตรณัฐี